วันเสาร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2564

วิธีการเขียน Bio ใน Clubhouse ให้มีคนติดตาม

วิธีการเขียน Bio ใน Clubhouse ให้มีคนติดตาม

Clubhouse (คลับเฮ้าส์) คือ แอพลิเคชั่น ที่ใช้พูดคุยกัน โดยใช้เสียง ผ่านรูปภาพใน Bio โดยสามารถเชิญผู้ฟังขึ้นมาพูดได้ หรือ ผู้ฟังอยากจะพูดก็ยกมือเพื่อขออนุญาตขึ้นมาพูดได้ คล้ายๆคนจัดรายการวิทยุ แล้วมีผู้ฟังโทรเข้ามาพูดคุยในรายการ

คงปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าทุกวันนี้ Clubhouse มีความสำคัญมากในการสร้างแบรนด์ โดยเฉพาะการพูดคุยในเรื่องของไอเดีย คนเราสมัยนี้ แค่อ้าปาก ก็รู้นะครับว่าเป็นคนยังไง โดยเฉพาะการตอบคำถาม และ การตั้งคำถาม 

สิ่งที่ทำให้คนสนใจ และ ติดตามเรานอกจากการพูดใน Club แล้ว Bio ที่เรามีก็สำคัญไม่แพ้กันครับ

เนื่องจากใน Clubhouse นั้นไม่ได้มี Content ไม่ได้มีคลิปวีดีโอใดๆเหมือนใน Facebook หรือ Youtube ที่ทำให้คนมาติดตามเรา เพื่อเห็นผลงานของเรา 

นั่นหมายความว่า สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ทำในสิ่งเดียวที่ Clubhouse เขาให้มา ให้ดีที่สุดก็คือการเขียน Bio นั่นเองครับ 

มากไปกว่านั้น เราลองสำรวจพฤติกรรมของเราเอง หรือ ผู้ฟังคนอื่น ดูสิว่า เขาทำอะไรบ้างที่หน้า Clubhouse ผู้คนในห้องชอบแตะดู Bio ของ Speaker และ แตะผู้ฟัง VIP แถวบนๆ 

ดังนั้น หาก Bio เราดี ก็เป็นแม่เหล็กดึงคนเข้ามาติดตาม

ไม่ใช่เฉพาะผู้ฟังเท่านั้นนะครับ ผู้พูดเอง ขณะที่ว่างๆฟังคนอื่นพูด เขาก็จะมักจะกดดู Bio ของผู้ฟังว่า ใครบ้าง คนไหนน่าสนใจ 

ถ้าดู Bio แล้วน่าสนใจ หรือมีจำนวน Follower มากๆ เช่น เป็นนักเขียน Best Seller หรือมีความเชี่ยวชาญในหัวข้อนั้นที่กำลังพูดคุยกันอยู่ เขาก็จะส่ง invite มาให้เราพูดครับ  นี่เป็นโอกาสดีที่ดี ที่เราได้รับเชิญให้พูดโดยไม่ต้องยกมือครับ 

ผมทำการศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมก็ได้ไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งใน YouTube ครับเธอชื่อว่า  TerDawn DeBoe  เป็นผู้หญิงผิวสีครับเธอมีผู้ติดตามเลยครับเขามากกว่าเป็นผู้ที่มีคนติดตามเธอใน Clubhouse มากกว่า 14.6K คน

เธอเขียนแบบนี้ครับ

Went from homeless and fire on my day off to owning a 10 person Digital Marleting Agency. Founder of ClubhouseDaily.com

เธอแนะนำว่า 3 บรรทัด สำคัญที่สุด และ มนุษย์ไม่ใช่หุ่นยนต์ ต้องเขียนเหมือนพูดคุยกัน ประกอบไปด้วย

1. Who you are  คุณคือใคร?

2. What you do คุณทำอะไร?

3. What you help คุณช่วยอะไรได้บ้าง?

ทำไม 3 บรรทัดแรกสำคัญที่สุด เๆพราะ เวลาที่เขาแตะมาที่ Bio ของเรา มันโชว์แค่นั้น  

เว้นแต่ว่า เราเป็น Elon mask ไม่ต้องมี Bio ไม่ต้องมีรูปตัวจริง ก็ได้ Bio โล่งๆก็มี Follower 2.2 ล้านคน

4. ขยายความ โชว์ผลงาน ทำอะไรสำเร็จมาบ่้าง มีผลงานอะไร

5. CTA (Call to action) เขียนในสิ่งที่เราต้องการให้ผู้อ่านทำเพื่อเรา เช่น ให้โทร ให้ตามเรามา หรือ สั่งเลย!

6. เพิ่มการเชื่อมโยงด้วย ig หรือ twitter เพื่อเป็นช่องทางที่ติดต่อเราต่อไป

หากใครคิดไม่ออก ให้ไปที่ “Clubhouse Bio Geneate” หรือ “Clubhouse Bio Creator” ก็ได้ 

เพื่อเป็นไอเดีย หรือ ไปดูสิว่าคนที่ดังๆ เขาเขียนอย่างไร โดยเฉพาะคนที่เหมือนๆเรา แต่เขาดังกว่าเรา เขาเขียน Bio อย่างไรบ้าง

 

ตัวอย่าง Bio ของผม Clubhouse 

เพิ่มเติมนะครับ... 

Bio ต้องมีประโยชน์ต่อผู้ฟัง

ใช้คำที่จำได้ แทนที่ URL เพราะแตะไปที่ลิงค์ไม่ได้ และคนสมัยนี้ไม่จำ URL เขาจำคำสั้นๆ ที่หาเราเจอ

เขียนแจกของที่บรรทัดแรกเลยก็ได้ อาจจะแจก ebook สั้นๆ เพื่อให้เขาตามมาเป็น Follwer เราใน Platform ต่างๆที่เรามี

ภาพ EMOJI ควรมี สร้างความเป็น Friendly แยกหมวดหมู่เห็นชัด แต่อย่าเลอะเทอะ

ใครที่มี Follower มากๆใน FB หรือ สื่อ Social อื่นๆ ถือว่าโชคดีครับ เพราะคนพวกนี้มีฐานแฟนอยู่แล้ว แฟนๆก็มักจะมา search หา ใน Clubhouse โดยที่เราไม่ต้องอ้าปากเลยก็มีครับ

ความลับ

ใส่ Keyword ที่เราต้องการให้คน Serach เจอเราใน Bio โดยเฉพาะ 3 บรรทัดแรก หรือ เรียกว่า SEO นั่นเอง เช่น “ความปลอดภัย” ก็จะเจอผมใน Clubhouse ครับ

ผมเปิดสอนการเขียนครับ สำหรับคนทำ Content หรือ อยากมีหนังสือทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.30 -12.00 น.

ชื่อคลับ "Thai Writer นักเขียนไทย"  เรียนเชิญนะครับ

ติดตามเรื่องราวที่ผมอยากจะเล่าได้ที่ 



Facebook : Pramote's Story 

LINE : @pramotestory

ปราโมทย์ โอภาสมงคลชัย

นักเขียน Best Seller 

Content Creator

 www.pramoteo.com

วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ควรฉีดวัคซีนมั้ย?

ควรฉีดวัคซีนไหม ?

ก่อนอื่นต้องมาดูว่า เพราะอะไร เราจึงไม่อยากฉีด

เราไม่อยากฉีดวัคซีน เพราะเรามี "ความกลัว"

ความกลัว เราได้มันมาจากไหน?

มาจากข่าว มาจากเพื่อน มาจากคนในครอบครัว 

ซึ่งมีข้อมูลมาว่า มันอันตรายต่อสุขภาพและชีวิต

คำถามถัดมา ทุกคนที่เราพูดถึงนั้น รู้จริงหรือเปล่า?

เขาได้ศึกษาอย่างถ่องแท้หรือไม่?

แปลกไหมครับว่า 

คนที่เราเชื่อ กลับเป็นคนที่ไม่มีความรู้ หรือรู้จริงในเรื่องนั้นๆ 

แต่ถ้าถามว่า ใครมีความรู้และรู้จริงมากที่สุด 

ก็คงหนีไม่พ้นคนที่เป็น "แพทย์" 

ซึ่งเป็นคนที่มีความรู้ และ น่าเชื่อถือมากที่สุด ในเรื่องของสุขภาพ แต่น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเชื่อแพทย์กันเลย

อารมณ์ นำเหตุผลล้วนๆ

ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ทางเลือก หรือ แพทย์ทางใดก็ตาม

เราเคยยกคอมพิวเตอร์ไปซ่อมไหมครับ?

เรายกไปซ่อมที่ไหน?

ไปซ่อมกับช่างคอมพิวเตอร์ใช่มั้ยครับ?

แล้วเรายกไปหาช่างคอมพิวเตอร์เพราะว่าอะไร?

ก็เพราะว่า เขาเชี่ยวชาญ และรู้จริงมากกว่าเรา

เวลาเราเจ็บป่วย เราไปหาหมอมั้ยครับ? 

หรือเราไปหาญาติของเรา หรือ เราไปหาเพื่อนของเรา แล้วมันหายไหมครับ?

สุดท้าย 

การตัดสินใจ ต้องขึ้นอยู่กับ การวิเคราะห์ข้อมูลที่มากพอ 

และข้อมูลที่ได้มานั้น ต้องมาจากแหล่ง หรือ คนที่เชื่อถือได้

การฉีดวัคซีนนั้น ลองตัดสินใจดูนะครับ ว่าเราจะเชื่อใคร 

จะเชื่อ "ลุง" 

เชื่อเพื่อน เชื่อคนในครอบครัว หรือเชื่อข้อเท็จจริงจากสถิติ หรือเชื่อจากคุณหมอ ที่ไว้ใจได้

#ฉีดวัคซีนดีมั้ย

ติดตามผมได้ที่ Pramote's Story

The Safety Coach
Pramote's Story

สำหรับผู้ที่สนใจ หนังสือ เป็นนักพูดมืออาชีพไม่ยาก ใครๆก็เป็นได้ 


มีวางจำหน่ายทางออนไลน์เท่านั้นนะครับ เล่มละ 270 บาท พิเศษโปรโมชั่นเดือนพค. ส่งฟรี EMS 

ติดต่อได้ที่ LINE:  @thesafetycoach
www.pramoteo.com

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ทำไมเงินเดือนกูน้อยจังวะ !

ทำไมเราได้เงินเดือนน้อยกว่าคนอื่น

เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผมได้เงินเดือนอยู่ที่ 10,000 บาท แต่เพื่อนของผมแต่ละคนได้ไม่ต่ำกว่า 14,000 บาท

รู้สึกน้อยใจตัวเองมาก ว่าทำไมเงินเดือนกูน้อยจังว่ะ !

สาเหตุที่เงินเดือนน้อย ก็เพราะว่า ความสามารถของเรามันน้อย 

ภาษาอังกฤษก็ไม่ดี เกรดเฉลี่ยก็ต่ำ ประสบการณ์ก็เป็นศูนย์

ทักษะการสัมภาษณ์ การเจรจาต่อรองก็ไม่มี 

ดูแล้วมันก็ตรงไปตรงมา ที่สมควรที่จะได้เงินเดือนเท่านี้


เพื่อนผมคนหนึ่ง จบพร้อมกัน เงินเดือนเกือบ 30,000 บาท 

ได้ทำงานในบริษัทมหาชน และได้งานเป็นคนแรกๆของรุ่น

ทั้งๆที่ตอนฝึกงาน ก็ฝึกงานที่เดียวกับผม 

แต่เขาแตกต่างจากผมมาก 

เขาได้เกียรตินิยม หน้าตาดี  ภาษาอังกฤษดี ทำงานเก่ง และ เป็นเด็กกิจกรรม

มันก็สมควรอยู่แล้ว ที่เขาจะต้องได้เงินเดือนเยอะกว่า

อะไรที่เกิดขึ้น ย่อมดีเสมอ

กฎแห่งการกระทำ ไม่เคยโกหก

ทุกการกระทำ คือ เงาของ
เราทำแบบไหน ชีวิตก็เป็นแบบนั้น 

การบ่น ไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลย

ผมเริ่มคุยกับตัวเอง ผมเริ่มมองเพื่อนหลายๆคน เริ่มมองคนที่ประสบความสำเร็จ และเริ่มคิดให้มันใหญ่กว่าเดิม

มีน้องคนหนึ่ง มาเจอผมเมื่อปีที่แล้ว และถามผมว่า

ตอนนี้พี่โมทย์ ได้เงินเดือนเท่าไหร่ครับ?

ซึ่งโดยมารยาทแล้ว ไม่ควรถาม แต่ผมเข้าใจว่า น้องยังเด็กอยู่


จึงตอบไปว่า 

ทุกวันนี้พี่ไม่มีเงินเดือนครับ เพราะพี่เป็น "คนจ่ายเงินเดือน"

น้องคนนี้ ทำไมหน้าอึ้งไปหลายวินาที

แล้วพี่โมทย์ทำยังไงครับครับ?

📌 โคตรง่ายเลยครับ

1. ตั้งเป้าหมาย
2. หาวิธีการ ที่นำไปสู่เป้าหมาย 
3. ลงมือทำ ไม่สำเร็จไม่เลิก
4. ให้รางวัลตัวเองสม่ำเสมอ แม้จะเป็นความสำเร็จเล็กๆน้อยๆ 
5. อยู่ห่างพวกผู้หวังดี ที่คอยโจมตีว่าเราทำไม่ได้

😊แค่นี้ชีวิตก็ดีขึ้นแล้วครับ

ถ้าเราได้เงินเดือนน้อย นั่นหมายความว่า ความสามารถของเรามันน้อย

หากอยากได้เงินมากๆ ก็ต้องพัฒนาความสามารถให้มากขึ้น

เงินเดือนที่มากขึ้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า เราทำงานมานานแค่ไหน

แต่เงินเดือน มันขึ้นอยู่กับความสามารถที่เรามีว่า มันมีมากแค่ไหนต่างหาก

เอ้าไปทำงาน !

The Safety Coach
Pramote's Story

สำหรับผู้ที่สนใจ หนังสือ เป็นนักพูดมืออาชีพไม่ยาก ใครๆก็เป็นได้ 


มีวางจำหน่ายทางออนไลน์เท่านั้นนะครับ เล่มละ 270 บาท พิเศษโปรโมชั่นเดือนพค. ส่งฟรี EMS 

ติดต่อได้ที่ LINE:  @thesafetycoach
www.pramoteo.com

วันพฤหัสบดีที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2564

ในวันที่เราไม่มีรายได้ จะทำยังไง

ในวันที่ไม่มีเงิน

ชีวิตของผมมี 2 ครั้ง ที่พบกับช่วงเวลาที่ไม่มีรายได้

ครั้งที่ 1 

ลาออกไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลีย 

ช่วงนั้น 7 เดือน ผมไม่มีรายได้เลย 

เพราะตั้งหน้าตั้งตา เรียนอย่างเดียว โดยไม่ทำงานพิเศษ 

ผมใช้จ่ายประหยัดมาก อยู่อย่าง อดๆอยากๆ น้ำหนักหายไป 10 กก. 

แต่ที่รอดมาได้ เพราะก่อนหน้านั้น "มีเงินเก็บ" ไว้เพียงพอ

ครั้งที่ 2 

เกิดจากการลาออก มาเป็นนายตัวเอง 

3 เดือนแรก นั่งมองหน้าภรรยาตาปริบๆ ไม่มีเงินเข้าสักบาท 

มีแต่เงินออก หลายหมื่นบาทต่อเดือน กินอยู่แบบประหยัดมาก ใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น


แต่ก็พ้น 3 เดือนมาได้เพราะมี "เงินออม" หรือ "เงินเก่า" เพราะสมัยที่ทำงานประจำ ผมไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย

จริงๆแล้ว น่าจะมีครั้งที่ 3 ที่ควรจะเกิดขึ้นในสภาวะวิกฤตแบบนี้ 

แต่ผมไม่ประสบปัญหามากมายนัก 

เพราะผมยังมีรายได้จากหนังสือ , ebook, แก้ว The Safety Coach และ การสอนออนไลน์ แม้ไม่มากมายนัก แต่มันก็เลี้ยงใจได้

ปรากฏว่าในวันที่มีวิกฤตโควิด-19

ชีวิตของผมตอนนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ "เงินเก่า" แต่เกิดจาก "ความรู้เก่าๆ" ที่มี 

#สิ่งที่ได้เรียนรู้ คือ

1. การออม มีความสำคัญมาก

2.การใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย นำไปสู่ความขาดแคลน

3. ความรู้ สามารถแปลงเป็นเงินได้ ต้องลงทุนกับตัวเองให้มาก

ที่เขียนไม่ได้มีเจตนา ยกยอตัวเอง แต่ผมอยากจะแบ่งปันประสบการณ์

เพื่อให้รู้ว่า การจัดการค่าใช้จ่าย เงินออม และความรู้นั้น เป็นเรื่องที่สำคัญมาก !

สำหรับหลายคน ที่เป็น FC ของผม 

เราดูแลเรื่องความปลอดภัยของผู้อื่น 

แต่อย่าลืมดูแลเรื่องความปลอดภัยทางการเงินของตนเองด้วยนะครับ

No pain No gain

พฤติกรรมความปลอดภัยสร้างได้

สำหรับผู้ที่สนใจ หนังสือ เป็นนักพูดมืออาชีพไม่ยาก ใครๆก็เป็นได้ 


มีวางจำหน่ายทางออนไลน์เท่านั้นนะครับ เล่มละ 270 บาท พิเศษโปรโมชั่นเดือนมีนาคม ส่งฟรี EMS 

ติดต่อได้ที่ LINE:  @thesafetycoach

"เป็นนักพูดอาชีพไม่ยาก ใครๆก็เป็นได้"
www.pramoteo.com

วันจันทร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2564

รีวิวประสบการณ์จากการเล่นคลับเฮ้าส์ Clubhouse 2 เดือน


ผมเข้ามาเล่น Clubhouse ได้ 2 เดือนแล้วครับ อยากจะมารีวิวประสบการณ์ ว่าได้ประโยชน์อะไรบ้าง มีข้อดี และ ข้อเสียอย่างไร

ประโยชน์ที่ได้รับ

1. ได้เจอคนเก่งๆมีจำนวนมาก เช่น ท่านว.วชิรเมธี คุณตัน อิชิตัน คุณเอ๋ นิ้วกลม พี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ พี่โจ้ ธนา อ.ริว Mindfulness และ ดร.ภิญโญ รัตนาพันธุ์  (AI : Appreaciative Inquiry) และมีโอกาสได้ Follow รวมถึงได้สอบถาม พูดคุยกันตรงๆในคลับ

2.  ได้ฟังไอเดียต่างๆ จากหลายๆท่าน ทั้งที่เคยรู้จักมาก่อน และไม่เคยรู้มาก่อนเลย ทำให้รู้ว่า มีคนเก่งๆอีกมากมาย ที่อยากมาแบ่งปัน

3. มีโอกาสได้แบ่งปันประสบการณ์และไอเดียที่ผมมี ให้กับคนในห้องนั้นๆ

4. ได้เรียนรู้วิธีการในการเป็น Moderator (พิธีกร )รวมไปถึงการเป็น Speaker (ผู้พูด) และ มารยาทต่างๆในคลับ ที่เราจะต้องปฏิบัติ โดยไม่รีบตัดสินผู้อื่น และให้เกียรติทุกๆคน

5. ได้สร้าง Connection ใหม่ๆ ในการช่วยพัฒนาสมอง และ จิตใจ รวมไปถึงได้เลือกฟัง ในสิ่งที่เราอยากจะศึกษา โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยในการทำงาน โลกภายใน สติ ปัญญา และ สมาธิ

6. ได้พัฒนาภาษาอังกฤษ ผมมีโอกาสก็ไปในคลับของพวกฝรั่ง และคลับของคนไทย ที่ชวนกันมาพูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งบางคน พอเขารู้ว่าเราเป็นคนไทย เวลาเขาคุยกันเรา เขาก็พูดช้าหน่อย เป็นการฝึกภาษาอังกฤษที่ดีครับ


ข้อดี

1. Clubhouse คล้ายๆรายการวิทยุที่เราสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับ DJ ได้ โดยไม่ต้องเห็นหน้าเห็นตา เราจะนอนคุย แก้ผ้าคุยก็ได้ สัญญาณเสียงดีมากครับ

2. เราสามารถเปิดคลับเฮาส์ทิ้งไว้แล้วก็ไปทำอย่างอื่น หรือ สลับหน้าจอ มือถือหรือ iPad ไปทำอย่างอื่นก็ได้ โดยที่เรายังได้ยินเสียงในคลับนั้นอยู่ ซึ่งแตกต่างจาก YouTube ที่เราต้องเปิดค้างไว้ตลอดเวลา

3. เราสามารถสร้างกลุ่มของเราขึ้นมาเอง เพื่อจะพูดคุยในเรื่องที่เราสงสัย สนใจ เพื่อแลกเปลี่ยนกัน และคนในคลับส่วนใหญ่รู้จักกาละเทศะ มีมารยาทที่ดีในการพูดคุยกันครับ

ข้อเสีย

1. การเสพข้อมูลมากเกินไป โดยที่เราไม่ได้คิดวิเคราะห์ว่า สิ่งที่ผู้พูดพูดนั้นจริงหรือไม่จริง อาจทำให้เราได้ข้อมูลที่ผิดพลาดได้ ต้องตั้งสติให้ดีและ พิจารณาความน่าเชื่อถือว่า คนที่พูด ใช่ตัวจริงหรือเปล่า?

2. ถ้าอยู่ในคลับทั้งวัน วันๆคงจะไม่ได้ทำอะไร นั่งฟังทั้งวัน และรายการส่วนใหญ่ ก็จะเป็นช่วง 2 ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาครอบครัว บางคนต้องอยู่กับครอบครัว แต่กลับต้องถูก Clubhouse เข้ามาแย่งเวลาของเราไป ก็ต้องแบ่งเวลาให้เหมาะสมด้วย

3. โดยส่วนตัวผมเป็นวิทยากร ก็มีหลายครั้งที่อยากจะเป็นผู้พูด จนลืมเป็นผู้ฟังที่ดี ต้องระลึกไว้เสมอว่า เรามาช่วย ไม่ได้มาโชว์

ทั้งหมดเป็นประสบการณ์ของผม ที่อยู่ในคลับเฮ้าส์มา 2 เดือนครับ

สำหรับท่านที่ สนใจจะเข้า Clubhouse 
สามารถ Follow ผมได้นะครับ : Pramote Opasmongkonchai 

หรือ มาพูดคุยกันที่คลับ The Safety Coach 

ยินดีต้อนรับครับ

ติดตามผมได้ที่
ที่เพจ Pramote's Story

ปราโมทย์โอภาสมงคลชัย
คนธรรมดาๆ ที่ชอบเขียน และ แบ่งปัน
www.pramoteo.com

วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

การจัดการความโกรธ


อารมณ์โกรธ เป็นเรื่องปกติมันเกิดขึ้นได้กับทุกคน

ก็มีแต่พระอรหันต์เท่านั้นแหล่ะ ที่ไม่รู้สึกโกรธ 

แม้แต่ พระโสดาบันเอง ก็ยังมีความรู้สึกโกรธได้ 

แล้วจะนับประสาอะไร กับมนุษย์อย่างเรา ที่ใช้ชีวิตไปวันๆ จะโกรธไม่ได้หรือไง 

แต่เชื่อเถอะว่า ไม่มีใครอยากที่จะโกรธ เพราะมันส่งผลต่อ ความผิดปกติในร่างกาย 

ลมหายใจของเราจะแรง แน่นหน้าอก มวนท้อง ตัวสั่น

ซึ่งไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น แต่ก็แปลกที่มนุษย์เรานั้นกลับหวงแหนความรู้สึกนี้ไว้

คนส่วนใหญ่ ชอบบอกวิธีการจัดการความโกรธ 

แต่จริงๆแล้ว ในทางพุทธศาสนา เราไม่ต้องเข้าไปจัดการมัน แต่ให้กลับมารู้สึกตัว รู้ว่าตัวเองกำลัง "โกรธ" 

แล้วกลับมาสังเกตกาย กลับมาสังเกตลมหายใจ กลับมาสังเกตความรู้สึก ของตัวเองว่าเป็นอย่างไร

สักพักหนึ่งความโกรธก็จะเบาบางเองทำบ่อยๆ สติมันจะไวขึ้น จิตใจเราจะสงบลง...

www.fb.com/PramoteFanpage

#ความโกรธ
#ตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน

วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2564

อะไร คือ สิ่งที่สำคัญที่สุด?


คนส่วนใหญ่ เวลาถูกถามคำนี้  คำตอบที่เขาตอบส่วนใหญ่ คือ "ชีวิต ลมหายใจ และ สุขภาพ" 

ถ้าเราตอบแบบนี้ เราลองถามตัวเองเพิ่มสิว่า ถ้าสิ่งเหล่านี้คือ สิ่งที่สำคัญที่สุด

เรากำลังทำอย่างไรกับชีวิต เรากำลังทำอย่างไรกับลมหายใจ เรากำลังทำอย่างไรกับสุขภาพของเรา 

สุขภาพ 

เรายังกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ ไม่ออกกำลังกาย นอนดึก นั่งมองหน้าจอทั้งวันทั้งคืน

ลมหายใจ

เรายังเครียด จนหายใจไม่อิ่ม เรายังโกรธยังไม่ให้อภัยคน จนเราหายใจไม่ทั่วท้อง เราอยู่แต่ในที่แออัดไม่ออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์

ชีวิต

เรายังอยู่ไปวันๆ เรายังขยันใช้เงิน มากกว่าขยันหาเงิน  เรายังเฮฮาปาร์ตี้มากกว่าพัฒนาตัวเอง 

เรายังเอาเปรียบคนอื่น เรายังเห็นแก่ตัว มากกว่าส่วนรวม

ถ้าเราบอกว่าชีวิต สุขภาพ และ ลมหายใจมีความสำคัญ

แต่หากเรายัง ทำเหมือนที่ผมได้บอกมาทั้งหมด

นั่นหมายความว่า เรายังไม่ได้มองว่า มันสำคัญอย่างแท้จริง

ลองดูนะครับ กลับมาพิจารณาลมหายใจ กลับมาพิจารณาสุขภาพ กลับมาพัฒนาชีวิตของเรา 

"กลับมารู้สึกตัว"

สิ่งเรานี้เรียบง่ายมาก 

จงออกกำลังกาย ผ่อนคลาย กินอาหารที่มีประโยชน์ ปล่อยว่าง มีเมตตาไม่เครียด ใช้ชีวิตให้สมดุล 

มองโลกตามความเป็นจริง หาโอกาสฝึกสมาธิอย่างสม่ำเสมอ

ยิงเรียบง่าย ยิ่งเข้าใกล้ความสุข

#ความสุข
Pramote's story